Featured Stories
คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว — ข่าวสารและบทความ — BU เดินหน้ายกระดับคุณค่าวัฒนธรรมท้องถิ่น ในงาน SX Sustainability Expo 2025
BU เดินหน้ายกระดับคุณค่าวัฒนธรรมท้องถิ่น ในงาน SX Sustainability Expo 2025

คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว ร่วมเสวนาในงาน SX Sustainability Expo 2025 นำเสนอโมเดลความสำเร็จของการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืนจากกรณีศึกษาชุมชนนวัตวิถีคลอง 3 จังหวัดปทุมธานี สะท้อนการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


การเสวนาครั้งนี้ในหัวข้อ "การเสริมพลังชุมชนผ่านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน: ต้นแบบจังหวัดปทุมธานี" นำทีมโดย ดร. ศิวศักดิ์ ปานสุขชุม หัวหน้าภาควิชาการจัดการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยวพร้อมด้วยอาจารย์อัจฉรา ศรีลาชัย อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว, คุณรุ่งนภา แก้วธรรม (กำนันนก) ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ 16 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี,คุณสรศักดิ์ กลับวิลา นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว และคุณกัลย์ยุทธพงศ์ นพคุณ ผู้จัดการโครงการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิชาการและผู้ดำเนินรายการเสวนา

ดร.ศิวศักดิ์ เปิดเวทีด้วยการอธิบายแนวคิด Community-Based Tourism (CBT) หรือการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เน้นให้คนในท้องถิ่นเป็นผู้มีบทบาทหลักในการตัดสินใจ บริหารจัดการ และได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างเป็นธรรม "CBT เป็นมากกว่าการนำนักท่องเที่ยวมาเยือนชุมชน แต่เป็นกระบวนการที่เสริมพลังให้ชุมชนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่มาสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและมรดกทางวัฒนธรรม รูปแบบการท่องเที่ยวนี้ตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ต้องการประสบการณ์แท้จริง มากกว่าเพียงแค่การถ่ายรูป โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนโหยหาการเดินทางในกลุ่มเล็ก สัมผัสธรรมชาติ และค้นหาประสบการณ์เชิงสุขภาวะ"


พร้อมด้วยอาจารย์อัจฉรา นำเสนอรายละเอียดโครงการบริการวิชาการที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพดำเนินการร่วมกับชุมชน OTOP นวัตวิถีคลอง 3 จังหวัดปทุมธานี โดยเริ่มจากการศึกษาศักยภาพและคุณค่าทางวัฒนธรรมของชุมชน "ทีมงานได้ค้นพบจุดเด่นหลากหลายของชุมชน ตั้งแต่การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน การทำเกษตรอินทรีย์ ภูมิปัญญาการทอเสื่อกกและสานกระเป๋าจากพลาสติกรีไซเคิล ไปจนถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรแบบดั้งเดิมที่หาชมได้ยากในพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ จากจุดแข็งเหล่านี้ ทีมงานจึงได้ร่วมมือกับชุมชนพัฒนาโปรแกรมท่องเที่ยวทั้งแบบเต็มวันและครึ่งวัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชุมชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ทีมงานจากหลายคณะของมหาวิทยาลัยกรุงเทพยังได้เข้ามาสนับสนุนในหลายมิติ ทั้งการสร้างการรับรู้ผ่าน Social Media การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการวางแผนการตลาดที่คำนึงถึงความยั่งยืนทั้งด้านต้นทุนและผลตอบแทนที่เป็นธรรมสำหรับชุมชน สอดคล้องกับเป้าหมายที่ 12 ในเรื่องการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน”

ตามมาด้วย คุณรุ่งนภา (กำนันนก) ตัวแทนจากชุมชน แบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจจากโครงการความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจในคุณค่าทางวัฒนธรรม "การที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเข้ามาทำงานร่วมกับชุมชน ทำให้ชาวบ้านได้เห็นคุณค่าของสิ่งที่พวกเขามี ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญา วิถีชีวิต หรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งเดิมทีไม่รู้ว่าจะนำเสนออย่างไรให้คนภายนอกเห็นคุณค่าเหล่านั้น ปัจจุบันชุมชนมีแผนพัฒนาที่ชัดเจน มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่ออกแบบมาดี และที่สำคัญคือคนในชุมชนเองก็มีส่วนร่วม เข้าใจ และเห็นทิศทางเดียวกัน โดยโมเดลที่สร้างขึ้นนี้สามารถนำไปขยายผลสู่ชุมชนอื่นๆ ได้ และเป็นต้นแบบที่ดีในระดับจังหวัดและระดับประเทศ สะท้อนเป้าหมายที่ 17 ในเรื่องความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”


ปิดท้ายด้วย คุณสรศักดิ์ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว เล่าถึงประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้รับจากการลงพื้นที่จริง "จากที่ได้เรียนเรื่อง Community-Based Tourism ในคลาสได้มีโอกาสนำความรู้มาลงมือปฏิบัติจริง ได้พูดคุยกับคนในชุมชน เข้าใจบริบทและความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา และได้ออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่ไม่ได้มองแค่ความสนุก แต่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน การกระจายรายได้ที่เป็นธรรม และการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประสบการณ์นี้มีคุณค่ามากและเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำงานด้านการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนต่อไป รวมทั้งการมีส่วนร่วมของนักศึกษารุ่นใหม่ยังช่วยสร้างเทรนด์และมุมมองใหม่ๆ ให้กับการท่องเที่ยวชุมชน โดยเฉพาะการใช้ Digital Marketing และการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจผ่านช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น”

ก่อนจบการเสวนา ดร. ศิวศักดิ์ สรุปโครงการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกรุงเทพและชุมชนนวัตวิถีคลอง 3 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมาปฏิบัติในระดับชุมชน "ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่ได้จบเพียงแค่การสร้างรายได้ให้ชุมชนเท่านั้น แต่เป็นการสร้างต้นแบบที่สามารถขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นๆ ได้ ทีมงานต้องการให้ทุกชุมชนในประเทศไทยเห็นว่า การท่องเที่ยวสามารถเป็นเครื่องมือในการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ โดยไม่ต้องแลกกับการทำลายสิ่งแวดล้อมหรือวัฒนธรรม ชุมชนคลอง 3 เป็นเพียงจุดเริ่มต้น มหาวิทยาลัยกรุงเทพมีแผนที่จะทำงานร่วมกับชุมชนอื่นๆ ในปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน”



มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้เข้าร่วมจัดแสดงผลงานในโซน Lifelong Learning ชั้น G ฮอลล์ 2 ตั้งแต่วันนี้ – 5 ตุลาคม 2568 ภายในบูธจัดแสดงถึงความร่วมมือกับชุมชนผ่านกิจกรรมที่หลากหลายจากความร่วมมือของนักศึกษา อาจารย์ และภาคธุรกิจ


นอกจากนี้ยังมีโครงการ Creative Young Designers Season 5 โครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าร่วมกับศูนย์หัตถกรรมทอผ้า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนำผลงานการออกแบบดีไซน์ของนักศึกษาที่ได้ลงมือทำจริงมาจัดแสดงโชว์

รวมไปถึงการจัด Talk Show และ Creative Showcase การแปรรูปเส้นใยบัวจากปทุมธานีให้มาเป็นผลงานร่วมสมัยในงาน บัวโวยาจ การเดินทางของภูมิปัญญา ผ้าขาวม้าปทุมธานีสู่วิถีเมือง ในวันที่ 3 ตุลาคม 2568 Talk Stage ชั้น G ฮอลล์ 4 เวลา 13.00 – 15.00 น.
